23 กรกฏาคม 2550 ต่อ

เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นต้องเป็นเพศเดียวกันเสมอไป
เพียงแค่เป็นใครๆที่เปิดใจ…..พร้อมที่จะดูแลต้นไม้แห่งมิตรภาพ
ขณะที่ยอมรับว่าความสนิทสนมของเพื่อนต่างเพศกันนั้น
ย่อมมีกฎบางอย่างที่เราต้องเคารพ….และมีข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้เราไม่สามารถสนิทสนมกันได้มากเท่ากับเพื่อนเพศเดียวกัน

เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นต้องอยู่ตรงนั้นเสมอยามที่ฉันต้องการ…..เพียงแค่อยู่ในความทรงจำ
เอาไว้ให้นึกถึงมาเป็นกำลังใจในการก้าวต่อไป...เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นต้องพบกันเป็นประจำ
เพียงแค่ฉันมองจากภาพถ่าย…..แล้วความทรงจำต่างๆ ระหว่างเราก็จะทำให้ฉันมีความสุข…..ยิ้มหรือหัวเราะได้

เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นต้องโทรคุยกันทุกวัน…..เพียงแค่เมื่อเวลาผ่านไปแสนนาน…..เมื่อได้มีโอกาสโทรหากันอีกครั้ง…..เรายังสามารถมีเรื่องราวมาแบ่งปันแก่กันและกันได้เหมือนวันก่อน
...เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นต้องทานข้าวด้วยกันบ่อยๆ ….เพียงแค่ในวันที่เราได้กลับมาทานข้าวด้วยกันอีกครั้ง…..แม้จะมีช่วงเวลาของความเงียบ…..ในความเงียบงันนั้นก็จะเป็นเวลาที่เราซึมซับในตัวตนของกันและกัน…..ตระหนักว่ากาลเวลาแม้จะทำให้สิ่งต่างๆเปลี่ยนแปลงไป…..แต่มิตรภาพระหว่างเรายังคงอยู่
...เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นจะต้องหาโอกาสมาทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันทุกครั้งที่เรามีเวลาว่าง…..เพียงแค่ยามที่ต่างคนต่างทำกิจกรรมกับคนอื่นอยู่นั้น….. ยังนึกถึงกันและกันบางหนที่กิจกรรมนั้นๆเป็นกิจกรรมที่รู้ว่าเราคนใดคนหนึ่งชอบหรือมีความถนัดเป็นพิเศษ
...เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นต้องชอบสิ่งใดๆก็ตามเหมือนกัน…..เพียงแค่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง…..เราจะเลือกโดยใช้เหตุผลของความเป็นเพื่อน…..ทำให้สามารถพอใจกันทั้งสองฝ่าย
...เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นต้องเป็นคนสำคัญในกลุ่มคนหมู่มาก…..เพียงแค่เป็นคนสำคัญ…..ในใจของฉัน
...เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นต้องมีฉันเป็นเพื่อนเพียงผู้เดียว…..เพียงแค่อยากให้รู้ไว้ว่าฉันมั่นใจในความเป็นเพื่อนระหว่างเรามาก…..มากจนไม่มีการระแวงหรือการน้อยใจใดๆ…..หากเพื่อนสนิทของฉันจะไปใช้เวลากับคนอื่นๆในชีวิต…..มากกว่าที่ใช้เวลากับฉัน
...เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ใกล้กัน…..เพียงแค่เมื่ออยู่ไกลกัน…..เรายังคงนึกถึงกันและกันในบางเวลา
...เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นจะต้องรู้เรื่องทุกอย่างของกันและกัน…..เพียงแค่รู้เรื่องทุกอย่างที่เราตัดสินใจแล้วว่าจะนำมาแบ่งปันซึ่งกันและกัน…..แม้ว่าเรื่องนั้น…..จะเป็นแค่เสี้ยวหนึ่งในเรื่องราวชีวิตอันมากมายมหาศาลของเราก็ตาม
...เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นต้องทนนิสัยทั้งหมดของฉัน…..เพียงแค่บอกฉันให้ปรับปรุงตัว…..และพร้อมที่จะรับฟังในสิ่งที่ฉันอธิบายหรือบอกให้ปรับปรุงตัวบ้าง
...เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เหมือนใครๆด้วยหวังว่าจะทำให้ตัวเองดูดีขึ้น…..เพียงแค่เป็นตัวของตัวเองอย่างที่เป็นเมื่อเราคบกันในตอนแรก…..ก็ดีที่สุดแล้ว
...เพื่อนสนิทของฉัน…..ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องเป็นเพื่อนสนิทของเขา…..เพราะคนเราต้องมีบ้างที่คิดไม่เหมือนกัน…..เพียงแค่อยากให้พวกเขารับรู้ในมิตรภาพที่ฉันมีให้…..แม้ไม่มากพอที่จะมีค่าสำหรับเขา…..แต่มันมีค่าเหลือเกินสำหรับตัวฉันที่เต็มใจจะมอบให้ใครๆ …..ฉันได้แต่หวังเพียงว่า…..ฉันจะเป็นเพื่อนสนิทของเพื่อนสนิทของฉัน…..

23 กรกฏาคม 2550

ฉันจะยึดคำนี้ไว้ don't frown because u never know who's falling in love with u smile
เพราะวันนี้เป็นวันที่ความลับถูกเปิดเผย กระทบกระเทือนจิตใจของฉันมากมายจนต้องบอกว่า เขาคือคนที่ใช่สำหรับฉันหรือเปล่า
แต่ก่อนฉันคิดว่าเขามั่นคงมาก แค่เรื่องเล็กน้อยก็ไม่สามารถที่จะทำให้เขาหมดรักเราได้ ฉันรักเขาหมดหัวใจ
แต่วันนี้ฉันรู้ว่า เขาไม่ได้รักฉันจนหมดหัวใจอย่างแต่ก่อน เพราะเขาแบ่งความรักที่มีให้ฉันไปให้อีกคนนึงที่ผ่านมา
วันนี้ฉันรู้ว่า เขาเห็นฉันเป็นของตาย เพราะเขารู้ว่าฉันจะไม่หนีไปไหน ประชดแบบไหนก็ได้
วันนี้ฉันรู้ว่า ความรักที่ฉันมีให้เขาไม่ได้เป็นประโยชน์สำหรับการที่เขาจะปิดบังความลับกับฉันยาวนานขนาดนี้
วันนี้ฉันรู้ว่า เขายังไม่รู้ใจตัวเองว่า เขายังไม่มีความมั่นคง ซึ่งเขาพูดอยู่เสมอว่าเขามั่งคงเสมอ แต่ที่จริงเขาพูดผิด
วันนี้ฉันรู้ว่า ฉันเสียใจที่ไว้ใจ
วันนี้ฉันรู้ว่า ฉันอยากร้องไห้เมื่อปล่อยให้เขาเปลี่ยนไป แต่ฉันก็ไม่ตามเหตุผลว่าเพราะอะไร
วันนี้ฉันรู้ว่า เขารำคาญฉัน
วันนี้ฉันรู้ว่า เขานิสัยไม่ดี และ....ฉันก็นิสัยไม่ดีที่ไม่ได้ดูเขาให้อยู่ในระเบียบ
วันนี้ฉันรู้ว่า ฉันไม่ควรพึ่งพาอะไรมากมาย สำหรับการช่วยเหลอ ความเอื้อเฟื้อ หรือความรัก
วันนี้ฉันรู้ว่า เขาเป็นคนที่ฉันไว้ใจไม่ได้
วันนี้ฉันรู้ว่า ทุกคนรู้ แต่ฉันไม่รู้
วันนี้ฉันรู้ว่า ฉันเสียใจมาก

2 กรกฎาคม 2550

รู้สึกว่าวันนี้จะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่เลยนะ จริงๆ

20 มิถุนายน 2550

วันนี้วันพุธ ฉัน มีความสุขดี วันนี้ไปรับไม้ซางที่ ซอย 111 อยากจะรู้ว่าที่จูน ไป IYF ที่ไหน ฉันพยายามมองดูแล้ว ไม่เห็นมีศูนย์พระคริสตจักรข่าวประเสริฐเลย แต่ช่างมันวันนี้เขาว่าจะซื้อหนังสือให้ แต่...มันอยู่ในใจว่าฉันคิดยังไง ฉันเพิ่งรู้วันนี้ว่าเขาไม่น่าไว้ใจว่า เมื่อไหร่เขาจะเข้าเอ็มของฉัน โดยไม่ให้ฉันรู้ เขาใจร้ายนะ บางครั้งคุยอะไรก็ไม่รู้ไม่คิดว่าคุณไมค์เขาจะคิดยังไงบ้างเลย ฉันก็เลยเปลี่ยน password เลย รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยไป

19 มิถุนายน 2550

วันนี้วันอังคาร ตอนเช้า ฉันมามหาวิทยาลัยด้วยรอยยิ้มเพราะฉันจะไม่คิดเรื่องเมื่อวาน แล้วเขาก็เนิ่มต้นด้วยการพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันเสียใจมาก เขาพยายามจะพูดเสียดสี ทำไมเขาไม่เข้าใจ ทำไมฉันต้องมาเจอปัญหาที่มันยากมากๆอย่างนี้ด้วย ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาไม่เข้าใจทั้งๆที่ฉันทำทุกอย่างเพื่อถนอมน้ำใจเขา ฉันเสียใจนะมากด้วย ไม่เคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่มันเกิดท้ออะไรบางอย่าง เหมือนกับว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งฉันไมอยากให้มันเกิด แต่อารมณ์พาไป ฉันยังหยุดมันได้ ไม่งั้นก็คงไม่มีพรุ่งนี้อีกแล้ว สรุปว่าฉันไม่เข้าใจ

ปัญหาของฉันมากมาย ใครก็ไม่รู้หรอก ฉันพยายามเข้มแข็งแล้วนะ ฉันเสียใจ ถ้าเขาเข้าใจฉันจะยินดีมากๆเลย แล้วเขาก็ไม่เข้าใจ มันลำบากใจแค่ไหน เขาบอกให้เลือก ฉันจะเลือกอย่างไหนล่ะ ฉันเกลียดตัวเอง ฉันลำบากใจจนอั้นไว้ยังไงก็ไม่อยู่แล้ว ใจพยายามบอกเขาแล้วนะ ทุกเรื่องฉันก็บอกเขาหมด เขาไม่เคยเชื่อใจฉัน

วันนี้ก็ดีใจที่กุ้ง ไก่ นาง เข้ามา เห็นใจบ้าง ซึ่งไม่มีเห็นใจฉันเลยนะ ฉันเสียใจอ่ะ บอกไม่ถูกเลย วันนี้ฉันยังมีอาการไม่สบาย แต่ฉัน.....เสียใจมาจากข้างในใจเลยลึก ลึก ดูเหมือนว่าเขาพยามจะบอกว่าเขาไม่ได้โกรธฉัน เขาไว้ใจฉัน แต่มันไม่ใช่ ฉันอยู่กับเขาตอนเย็น เขาพาฉันไปซื้อหนังสือมาคืนห้องสมุด ฉันเครียดเครียดมากๆมากๆอ่ะ ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว


มีคุณไมค์คุยด้วย ก็ดีไปอย่าง ใครก็ไม่เข้าใจความรู้สึกฉันหรอก ฉันเครียด คุณไมค์เขาไม่รู้อะไรด้วย ฉันก็เครียด ไม่รู้จะทำยังไง

18 มิถุนายน 2550

วันนี้วันจันทร์มาเรียนหนังสือ คาดว่าจะได้หนังสือคืนวันนี้ แต่ยังไม่ได้เลย ยังไม่มีใครเอามาคืนแม้แต่ตัวเดียว แล้วมันจะเอาไปทำไมวะนั่น หนังสือ database งี้ tach talk งี้ เรียนก็ไม่ได้เรียน เฮ้อ วันนี้มีเรื่องต้องปรับความเข้าใจกับไม้ซาง เจ็บอกมากๆเลย ฉันทนเกือบไม่ได้ รู้สึกร้อนๆหนาวๆ เหมือนจะอ้วกยังไงยังงั้น ก็เลยไปซื้อ ไทลินอลมากิน ซะ เม็ดเลย มันเกรงๆไงก็ไม่รู้ คุณไมค์โทรมา จะรับก็กลัวไม้ซางจะว่าเอาอีก อย่าว่าแต่เขาเลย ฉันก็มีอารมณ์หึงหวงมั่งนะ ฉันก็ไม่โทเขาหรอกที่มาหึงฉัน แต่พอเข้าอีเซ็นเตอรืมาแป๊บเดียว เอาอีกล่ะ ยุ่งอะไรกับน้องมันก็ไม่รู้ สิ ว้า .... แล้วเมื่อไหรจะเลิกหวงกันไปกันมาซะทีเนี่ย ฉันจะพยายาม ไม่หึงเขานะ จะพยายาม

17 มิถุนายน 2550

วันนี้วันอาทิตย์ ฉันไปโบสถ์ตั้งแต่ 10 โมงเลย ที่นั่นมีคนเยอะ แต่ละคนดูเขาจะเป็นคนใจดีมากๆเลย เขาเข้ามาดูแลเอาอกเอาใจ มีการร้องเพลง เพลงเขาแต่ละเพลงน่ารักและ ชโลมจิตใจดีนะ

16 มิถุนายน 2550

วันนี้วันเสาร์ฉันโทรหาทุกคน แม่ พี่แฮ็ก พี่กร พี่ภา คุณไมค์ อาแต๋ แต่ใครก็ไม่พิเศษเท่า ไม้ซาง ฉันยังไม่ได้กินข้าวเพิ่งจะซักผ้าเสร็จก็เจ็บอกขึ้นมาแปล๊บ ก็ไม่ได้คิดอะไร ฉันเลยโทรหาไม้ซางจะถามว่ากินข้าวหรือยัง คิดถึงนะ แต่แล้ว ฉันก็ต้องมีน้ำตา เกิดโรคที่เคยๆเป็นอยู่ ฉันคิดว่าฉันคงตายตรงนี้แล้วมั้ง ฉันไม่ได้ยินอะไรเลย เพราะมันนานมาก มือชา เท้าชา แล้ว งอจนงุ้ม ฉันพยายามตั้งสติทำให้มันเป็นเรื่องธรรมดา พยายามต่อสู้กับมัน แต่มันก็แทบขาดใจ ฉันรู้ว่าเพชรเข้ามาที่ห้องแล้วหาถุงที่ไหนไม่รู้มาคลุมจมูกฉัน ถือว่าเพชรช่วยฉันไว้แท้ๆเลย ฉันหายแล้วเสียงก็เข้ามาในหู ไม้ซางนั่นเอง ฉันดีใจที่เขาห่วงฉัน สักชั่วโมงฉันก็เริ่มเจ็บหน้าอก เน่นมากๆ จุกเลย ฉันเลยต้องไปคลินิก หมอบอกให้ฉันไปโรงพยาบาลพรุ่งนี้ ฉันคงไม่ไปหรอก
ตอนเย็นนั้นฉันเลยต้องไปดูหนังกับคุณไมค์ซะนี่ เซ็งจริงทั้งที่ยังเจ็บๆอยู่ fantastic 4 ภาค 2 สนุกดี Hamberger ก็ดีนะ แต่ไม่อยากให้เขาสิ้นเปลืองเลย

15 มิถุนายน 2550

วันนี้ฉันมมหา'ลัยาเพื่อ พูดอะไรบางอย่างให้คนบางคนเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งฉันไม่ชอบที่สุด เมื่อวานฉันเคืองเขามากถ้ามันเป็นครั้งเดียวที่เขาเป็นแบบนี้ฉันคงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย แต่ว่าการไปนั่งแช่อยู่กับใครที่ไหนก็ตาม โดยที่ฉันไม่รู้ว่าเขาไปทำไมและเกี่ยวอะไรกับเขา และไปเพื่ออะไร อาจเป็นจุดประสงค์แอบแฝงของเขา ก็ช่าง มันแบ่งเวลาของความเข้าใจของฉันออกไป พยายามเข้าใจว่า เขาไปนั่งเป็นเพื่อนเด็กพวกนั้น แต่ฉันก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าทำไมเขาไม่เรียกฉัน เขาบอกว่าเขาเรียกฉันแล้ว แต่ฉันผิดเหรอที่ไม่ได้ยิน และยังอยากจะย้อนถามไปว่าทำไมเขาไม่ตามฉันทั้งที่ฉันหาเขาแทบบ้า ความรู้สึกนั้นไม่มีใครรู้หรอกว่ามันน่าน้อยใจขนาดไหน หนังสือของฉันหายฉันต้องการคนช่วยฉันหา แต่ก็ไม่มีใครเลยสักคน ฉันแค่ลุกไปห้องน้ำใครก็รู้ว่าฉันไปห้องน้ำ และใครๆก็เห็นว่าฉันไม่ได้เอาอะไรไปสักอย่างนอกจากเงินที่เขาให้ไป ฉันกลับมาก็ยังมาว่าฉันอีก ฉันรู้ว่าเขาห่วง แต่มันน่าจะมีเหตุผลว่าฉันต้องเข้าห้องน้ำที่ไหน เย็นมาเข้าประชุมฉันก็ดีใจที่มีคนรอฉันขึ้นประชุมพร้อมกัน แต่แล้วฉันก็รู้ว่าเขารักษาฟอร์มของเขามากแค่ไหนต่อหน้าทุกๆคน ฉันก็รู้ว่ารุ่นพี่ก็รักษาภาพพจน์ที่เป็นคนเด็ดขาดสั่งอะไรก็ต้องไป สักทำอะไรก็ต้องทำ เขาก็บอกให้ฉันไปหาหนังสือ แต่ฉันเห็นว่าเป็นเป็นมารยาทที่เลวมากถ้าจะออกไปต่อหน้าทุกคนและรุ่นพี่มากมาย แล้วประชุมเสร็จฉันก็ต้องตะหงิดอยู่ในใจว่า ฉันโง่เหรอไง เขาบอกว่า อ้าวมะกี้บอกให้ไปหายังไม่ไปหาอีกเหรอ ซึ่งเขาก็เห็นว่าฉันไม่ได้ลุกไปไหนเลย แล้วเขาก็มาว่าอย่างนี้ ความคิดอันนี้ก็ผุดขึ้นมาว่า อ๋อฉันมันเป็นคนโง่ที่สั่งให้ไปแล้วยังไม่ไปอีก ที่ไม่ไป ฉันก็รู้แล้วว่ามันหายไปตั้งแต่ที่ฉันลุกออกมาจากโต๊ะบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งนั่นก็คือไม่มีใครสนใจหนังสือของฉัน และ ฉันก็จะไม่โทษใคร ฉันก็ไม่ได้ปริปากออกไปว่าทำไมไม่ดูให้หน่อย สักแอะเดียว ฉันก็ต้องโทษตัวเองคนเดียว

จะมีใครเป็นกำลังใจให้ฉันบ้าง ไม่มีใครเข้าใจว่าฉันเครียดหนังสือฉันหาย ไม่รู้ใครเก็บให้ หรือไม่รู้ใครเอาไปใช้ หนังสือเรียนก็ไม่เท่าไหร่ แต่หนังสือห้องสมุดนี่สิ ฉันยืมมา ฉันไม่น่าเอาของอะไรไว้ที่นั่นสักอย่าง ฉันไม่น่าไปนั่งที่นั่นด้วยซ้ำ เพราะยังไงฉันไปก็เท่าน้นไม่มีบทบาทอะไร ฉันอยากจะรู้ว่าทำไมไม่ม่ใครมีน้ำใจบอกบ้างว่าหนังสือฉันอยู่ไหน และใครช่างไม่มีน่ำใจดูหนังสือให้ฉันบ้าง และใครก็ไม่มีน้ำใจช่วยฉันหากนังสือเลยสักคนเดียว แม้ฉันหวังให้คนที่ฉันแคร์ที่สุดช่วยฉัน


เรื่องของวันนี้ไม่ใช่เรื่องของเมื่อวาน ฉันคงต้องเข้าใจ ฉันจะไปพูดเรื่องเมื่อวานอีกแต่วันนี้เช้ามาถึงมหาลัยฉันต้องเบื่ออีก ทำไมต้องเข้าไปเดินลอยชายที่เด็กๆมันนั่งอยู่ มันนั่งอยู่ก็ช่างมันสิ ฉันคงไม่รู้ว่าเขารักเด็กมั้ง ไม่รู้ไปเพื่ออะไร เขาจะสนใจอะไรรุ่นนี้นักหนา ทั้งที่รุ่นของตัวเองไม่เคยเลยที่จะสนใจ ประชุมก็ไม่เข้า ให้ทำอะไรก็ไม่เต็มที่ สักอย่าง ฉันกะจะมาพูดเรื่องเมื่อวานกันเขา แต่ก็ต้องชะงักไปเพราะเขานั่นแหละ เรื่องนี้ฉันจะโทษเขาอยู่แค่ในบันทึกหน้านี้และฉันจะไม่พูดอะไรอีกต่อไปแล้ว


ฉันต้องโทรหาเขาหลายครั้ง เขาชอบผลัดและไม่รับสาย ฉันโกรธมากเลย ก็เลยปั่นกลับเลย ปล่อยให้เขากลับบ้านเอง แต่ฉันก็รู้สึกผิดที่เอาแต่ใจตัวเอง ฉันเลยกลับไปรับ แต่เขาไม่อยู่แล้ว หวังไว้ลึกๆว่าเขาจะอยู่รอ ฉันก็เลยมาตามหาหนังสือของฉันจนค่ำถึงกลับหอ